ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด นำทัพให้มีการเปลี่ยนระบบ พรีเมียร์ลีก และให้ความช่วยเหลือสโมสรในลีกรอง หลังเจอพิษโควิดเล่นงาน
เดลี่ เทเลกราฟ สื่ออังกฤษ รายงานข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมาว่า ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
กำลังเป็นสองทีมตัวตั้งตัวตีในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันของศึก พรีเมียร์ลีก โดยต้องการให้ลดจำนวนทีมจาก 20 เหลือแค่ 18 ทีมเท่านั้น
:ด่วน! ศบค.แถลงติดโควิดเพิ่ม 4 เผยไทม์ไลน์ดีเจ
:แสงมณี vs ตะวันฉาย
ในแผนการของการปฎิรูปวงการลูกหนังเมืองผู้ดี ยังจะให้ยกเลิกการแข่งขันฟุตบอลถ้วยรายการ ลีก คัพ ศึกชิงโล่ แชริตี้ ชิลด์ อีกด้วย โดย “หงส์แดง” และ “ปีศาจแดง” หวังว่า สโมสรใหญ่ๆ ทั้ง เชลซี, อาร์เซน่อล, แมนฯ ซิตี้ และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะเห็นด้วยและสนับสนุนข้อเสนอของพวกเขา
ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด นำทัพให้มีการเปลี่ยนระบบ พรีเมียร์ลีก
นอกจากนี้ ตามโปรเจ็กต์ยังจะให้สโมสรใน พรีเมียร์ลีก ช่วยเหลือทางการเงินกับทีมในลีกรองทั้ง แชมเปี้ยนชิพ, ลีก วัน และ ลีก ทู จำนวน 250 ล้านปอนด์ (ประมาณ 10,000 ล้านบาท)
หลังจากเผชิญกับปัญหาทางการเงินเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ส่วนการเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดยังจะให้ 2 อันดับแรกของ แชมเปี้ยนชิพ ได้ขึ้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก โดยอัตโนมัติเหมือนเดิม แต่อีก 1 ทีมที่เลื่อนชั้นจะเปลี่ยนมาเป็นเอาทีมอันดับ 16 ของ พรีเมียร์ลีก
มาเล่นเพลย์ออฟแบบมินิทัวร์นาเมนต์กับอันดับ 3, 4 และ 5 ของ แชมเปี้ยนชิพ
ขณะที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) จะมอบเงินจำนวน 100 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,000 ล้านบาท)
ช่วยเหลือทีมนอกลีก, เกมฟุตบอลหญิง และลูกหนังรากหญ้า ในช่วงที่ทุกทีมต้องเผชิญกับความยากลำบากจากพิษโควิด-19
สำหรับระบบใหม่คาดว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไวสุดในฤดูกาล 2022/23 โดยการจะทำให้ พรีเมียร์ลีก ลดจาก 20 เหลือ 18 ทีมคือในซีซั่นก่อนหน้านั้นต้องมี 4 ทีมตกชั้นโดยอัตโนมัติ และ แชมเปี้ยนชิพ เลื่อนชั้นขึ้นมาแค่ 2 ทีมเท่านั้น
ทั้งนี้ ระบบใหม่ของการแข่งขันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อต้องมีอย่างน้อย 14 สโมสรใน พรีเมียร์ลีก ลงมติให้ความเห็นชอบ
ตัวเลขสถิติก่อนศึกแดงเดือด พรีเมียร์ลีก
อันดับในตารางก่อนพบกัน
- แมนฯ ยูไนเต็ด : อันดับที่ 12 มี 9 คะแนน ยิง 9 เสีย 8
- ลิเวอร์พูล : อันดับที่ 1 มี 24 คะแนน ยิง 20 เสีย 6
ดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลนี้
- แมนฯ ยูไนเต็ด : แดเนียล เจมส์ / มาร์คัส แรชฟอร์ด – 3 ประตู
- ลิเวอร์พูล : ซาดิโอ มาเน – 5 ประตู
แอสซิสต์มากที่สุดในฤดูกาลนี้
- แมนฯ ยูไนเต็ด : พอล ป็อกบา / มาร์คัส แรชฟอร์ด – 2 ครั้ง
- ลิเวอร์พูล : โรแบร์โต ฟิร์มิโน / โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – 3 ครั้ง
โอกาสยิงมากที่สุดในฤดูกาลนี้
- แมนฯ ยูไนเต็ด : มาร์คัส แรชฟอร์ด – 21 ครั้ง
- ลิเวอร์พูล : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – 26 ครั้ง
สถิติของผู้จัดการทีม
โอเล กุนนาร์ โซลชา อายุ 46 ปี
- คุม แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้ว 40 เกม (ชนะ 20 เสมอ 8 แพ้ 12)
- เคยคุมทีมพบ ลิเวอร์พูล 2 ครั้ง (ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 1)
- คุมทีมพบ เยอร์เกน คล็อปป์ 1 ครั้ง (ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 0)
- ซื้อนักเตะในฤดูกาลนี้ไปทั้งสิ้น 143 ล้านปอนด์ ขายไป 62.5 ล้านปอนด์
เยอร์เกน คล็อปป์ อายุ 52 ปี
- คุม ลิเวอร์พูล มาแล้ว 221 เกม (ชนะ 130 เสมอ 52 แพ้ 39)
- เคยคุมทีมพบ แมนฯ ยูไนเต็ด 9 ครั้ง (ชนะ 2 เสมอ 5 แพ้ 2)
- คุมทีมพบ โอเล กุนนาร์ โซลชา 1 ครั้ง (ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 0)
- ซื้อนักเตะในฤดูกาลนี้ไปทั้งสิ้น 1.7 ล้านปอนด์ ขายไป 37.4 ล้านปอนด์
สถิติการพบเจอกันทั้งหมดในเกมลีก
ทั้งหมด 118 ครั้ง
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 48
เสมอ 34
ลิเวอร์พูล ชนะ36 ครั้ง
แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงได้ 134 ประตู
ลิเวอร์พูล ยิงได้ 130 ประตู
สถิติการพบเจอกันในเกมลีก นับตั้งแต่ลีกสูงสุดเปลี่ยนชื่อเป็น พรีเมียร์ลีก
ทั้งหมด 55 ครั้ง
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 28
เสมอ 13
ลิเวอร์พูล ชนะ 14 ครั้ง
แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงได้ 76 ประตู
เกมที่ชนะขาดลอยที่สุด 4-0 วันที่ 05/04/2003
ลิเวอร์พูล ยิงได้ 60 ประตู
เกมที่ชนะขาดลอยที่สุด 1-4 วันที่ 14/03/2009
ได้ลูกจุดโทษ : แมนฯ ยูไนเต็ด 6 ครั้ง / ลิเวอร์พูล 5 ครั้ง
เก็บคลีนชีท : แมนฯ ยูไนเต็ด 17 ครั้ง / ลิเวอร์พูล 13 ครั้ง
ใบเหลือง : แมนฯ ยูไนเต็ด 100 ใบ / ลิเวอร์พูล 86 ใบ
ใบแดง : แมนฯ ยูไนเต็ด 9 ใบ / ลิเวอร์พูล 7 ใบ
สถิติการพบกัน 10 ครั้งหลังสุดในทุกรายการ
- แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 3
- เสมอ 5
- ลิเวอร์พูล ชนะ 2
5 อันดับนักเตะที่ยิงได้มากที่สุด ในเกมที่ทั้งสองทีมพบกัน
- สตีเวน เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล) 9 ประตู
- ร็อบบี ฟาวเลอร์ (ลิเวอร์พูล) 6 ประตู
- ไมเคิล โอเวน (ลิเวอร์พูล / แมนฯ ยูไนเต็ด) 6 ประตู
- จอห์น บาร์นส์ (ลิเวอร์พูล) 6 ประตู
- ไบรอัน ร็อบสัน (แมนฯ ยูไนเต็ด) 6 ประตู