ร้อง สอศ.ปม ข้าราชการเทคนิคใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ได้มีการร้องเรียนว่ามีข้าราชการในวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง ได้เอาเงินที่มีคนบริจากสื่อการสอน
ได้ไปใช้ในเรื่องส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่กำลังขาดหาว่าใครเป็นคนทำในสิ่งนี้ และ ทำไมถึงต้องได้กระทำในส่วนนี้ ที่ขอเงินบริจากให้กับวิทยาลัยฯ แต่กลับเอามาใช้สอย และเลี้ยงส่งกันอย่างสบายใจ เป็นที่เรียกกันได้ว่าทำให้เดือดร้อนแก่ผู้อื่น และทำให้วิทยาลัยได้เสื่อมเสีย

ผู้บริจาคยื่นจดหมายพร้อมหลักฐานถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในประเด็นการเบิกเงินของผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคฯโดยมิชอบ
วันที่16 พฤศจิกายน 63 ที่ผ่านมา นายสิทธิรุจน์ เสถียรจารุพงศา ผู้
บริจาคเงินเพื่อการศึกษาให้กับวิทยาลัยเทคนิคฯ แห่งหนึ่ง ใน จังหวัดขอนแก่น
ในชื่อบัญชี ค่าใช้จ่ายบริหารกองทุนแนะแนว
ได้ดำเนินการเขียนจดหมายร้องเรียน 2 ฉบับ
ถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ด้วยมีการตรวจสอบพบว่ามีข้าราชการของวิทยาลัยเทคนิคดังกล่าว
ได้มีการเบิกเงินจากบัญชี ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ ๔๐๓๑๕๕๓๓๓๒ ซึ่งเงินบัญชีดังกล่าว เป็นเงินมาจากการบริจาคเพื่อการศึกษาให้กับนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หากแต่ทางด้านข้าราชการวิทยาลัย
ผู้ถือบัญชีได้มีการเบิกเงินออกมาแล้วนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งทางผู้บริจาคได้สันนิษฐานว่ามีการนำไปในการจัดเลี้ยงต้อนรับทำให้มีการเปิดประเด็นขึ้นมา ในการที่ยักยอกเงินในส่วนของเงินที่ได้มีการเขียนมา เพื่อขอบริจาค เพื่อเป็นทุนการศึกษาในเด็กวิทยาลัยฯ แต่เอากลับมาใช้ในเรื่องส่วนตัว และมันกระทบคนอื่น
ทำให้มีการเปิดประเด็นขึ้นมา ในการที่ยักยอกเงินในส่วนของเงินที่ได้มีการเขียนมา เพื่อขอบริจาค เพื่อเป็นทุนการศึกษาในเด็กวิทยาลัยฯ แต่เอากลับมาใช้ในเรื่องส่วนตัว และมันกระทบคนอื่น
นี้คือผู้ที่ได้บริจาคได้ยื่นจดหมายพร้อมกับหลักฐานและเอกสารถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในประเด็นการเบิกเงินของผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคฯโดยมิชอบ
การเรียกร้องทางครั้งนี้ทำให้เหล่า บุคลากรได้มีผลกระทบต่างๆ ในหน้าที่และการทำงานของวิทยาลัยฯแห่งนี้ ทำให้ได้มีการเสียระบบต่างๆ ทั้งนี้ยังต่อรอการตรวจสอบ และค้นหาขอมูลในการยักยอกเงินครั้งนี้ด้วย
เป็นผลกระทบในหลายๆ เรื่องที่วิทยาลัยต้องรับผิดชอบ การยักยอกเงิน ของวิทยลัยนั้นทำให้ต้องขาดแคลนเรื่องการเรียนและอุปกรณ์ ในการสอน แต่สิ่งที่บุคลากรท่านนี้ได้กระทำนั้น ทำให้เกิดผลเสียต่อทางวิทยาลัยเป็นอย่างมาก
เป็นผลกระทบในหลายๆ เรื่องที่วิทยาลัยต้องรับผิดชอบ การยักยอกเงิน ของวิทยลัยนั้นทำให้ต้องขาดแคลนเรื่องการเรียนและอุปกรณ์
ในการสอน แต่สิ่งที่บุคลากรท่านนี้ได้กระทำนั้น ทำให้เกิดผลเสียต่อทางวิทยาลัยเป็นอย่างมาก
ครั้งนี้ก็ต้องรอ วันที่เรียกตัวและหมายศาลที่ให้กับตัวบุคลากรดังกล่าว เพราะ การที่ทำให้การศึกษาต้องได้เสียระบบกับคนเดียวมันไม่ใช้เรื่อง ที่จะทำกัน เพราะเงินที่ขอไปเป็นทุนแต่กลับเอามาใช้เอง ซี่งเป็นความตามกฎหมายที่กว่ามาไว้ แต่อย่างไรก็ตามที่ได้กล่าวไว้ ตอนนี้ได้มีการได้เรียกหมายศาล ให้บุคลากรดังกล่าวได้ไปทำเรื่องที่ศาลตามกฎหมาย
เป็นการกระทำที่ทำให้ยุ่งยากอย่างมาก เพราะการที่เอาเงินไปใช้ในทางที่ผิดแล้วยังจะต้องทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนนั้น ไม่ใช้การกระทำที่ถูกเป็นอย่างมาก
เป็นเงินมาจากการบริจาคเพื่อการศึกษาให้กับนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หากแต่ทางด้านข้าราชการวิทยาลัย ผู้ถือบัญชีได้มีการเบิกเงินออกมาแล้วนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งทางผู้บริจาคได้สันนิษฐานว่ามีการนำไปในการจัดเลี้ยงต้อนรับ เป็นการกระทำที่ทำให้ยุ่งยากอย่างมาก เพราะการที่เอาเงินไปใช้ในทางที่ผิดแล้วยังจะต้องทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนนั้น ไม่ใช้การกระทำที่ถูกเป็นอย่างมาก
วิทยาลัยเทคนิคฯ แห่งหนึ่ง ใน จังหวัดขอนแก่น ในชื่อบัญชี
ค่าใช้จ่ายบริหารกองทุนแนะแนว ได้ดำเนินการเขียนจดหมายร้องเรียน 2 ฉบับ
ถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ด้วยมีการตรวจสอบพบว่ามีข้าราชการของวิทยาลัยเทคนิคดังกล่าว ได้มีการเบิกเงินจากบัญชี ธนาคารกรุงไทย บัญชีเลขที่ ๔๐๓๑๕๕๓๓๓๒ ซึ่งเงินบัญชีดังกล่าว
นายสิทธิรุจน์ เสถียรจารุพงศา ได้มีการให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว “ไว้ว่าจุดมุ่งหวังของเงินบริจาคที่ตนเองมอบให้นั้นเพื่อให้เด็กๆผู้ขาด
โอกาสทางการศึกษาได้ใช้เงินเพื่อแนะแนวการศึกษาอย่างตรงวัตถุประสงค์” และอยากให้การศึกษาของไทยพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง
และได้มีการร้อง สอศ.ปม ให้ข้าราชการเทคนิค ที่ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ จึงได้มีการร้องขอให้ทางเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ให้เข้ามาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และ ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่และหากพบว่าเป็นความผิดอาญาก็ให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย
:ด่วน! ศบค.แถลงติดโควิดเพิ่ม 4 เผยไทม์ไลน์ดีเจ
ร้อง สอศ.ปม ข้าราชการเทคนิคใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ จึงร้องขอให้ทางเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เข้าดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ และ หากพบว่าเป็นความผิดอาญาก็ให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายนี้คือผู้ที่ได้บริจาคได้ยื่นจดหมายพร้อมกับหลักฐานและเอกสารถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในประเด็นการเบิกเงินของผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคฯโดยมิชอบ
นายสิทธิรุจน์ เสถียรจารุพงศา ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไว้ว่าจุดมุ่งหวังของเงินบริจาคที่ตนเองมอบให้นั้นเพื่อให้เด็กๆผู้ขาดโอกาสทางการศึกษา และได้มีการร้อง สอศ.ปม ให้ข้าราชการเทคนิค ที่ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ จึงได้มีการร้องขอให้ทางเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ได้ใช้เงินเพื่อแนะแนวการศึกษาอย่างตรงวัตถุประสงค์ และอยากให้การศึกษาของไทยพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง ล่าสุดคงต้องรอทางเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ว่ามีพยานหลักฐานหรือเป็นเพียงคำกล่าวอ้าง ควรต้องรอผลพิสูจน์ต่อไป
ล่าสุดคงต้องรอทางเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ว่ามีพยานหลักฐานหรือเป็นเพียงคำกล่าวอ้าง ควรต้องรอผลพิสูจน์ต่อไป
แต่อย่างไรก็ตามที่ได้กล่าวไว้ ตอนนี้ได้มีการได้เรียกหมายศาล ให้บุคลากรดังกล่าวได้ไปทำเรื่องที่ศาลตามกฎหมาย
แต่ยังไม่ข่าวได้คืบหน้าเกี่ยวกับบุคคลดังกล่าว เรื่องนี้ต้องติดตามต่อไป เพราะ ถ้าหากมีบุคคลนี้ได้ทำการแบบนี้อีกทีก็ต้องเป็นพิษต่อสังคม อย่าให้มันได้เกิดอีก ต้องทำการให้เด็ดขาด
ข่าวแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแต่กลับไม่มีคนได้ร้องทุกข์ หรืออาจจับไม่ได้เลยก็ว่าได้ เป็นข่าวส่วนน้อยที่จะออกมาได้บ่อยครั้ง เพราะการที่มีข่าวแบบนี้อาจทำให้วิทยาลัยได้เสื่อมเสียกัน เลยไม่ค่อยจะออกมายอม หรือได้มีการปล่อยข่าวที่แน่ชัดเป็นอย่างมากก็ว่าได้
ล่าสุดต้องรอทางเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ว่ามีพยานหลักฐานหรือเป็นเพียงคำกล่าวอ้าง
ควรต้องรอผลพิสูจน์ต่อไปครั้งนี้ก็ต้องรอ แต่ยังไม่ข่าวได้คืบหน้าเกี่ยวกับบุคคลดังกล่าว เรื่องนี้ต้องติดตามต่อไป เพราะ ถ้าหากมีบุคคลนี้ได้ทำการแบบนี้อีกทีก็ต้องเป็นพิษต่อสังคม อย่าให้มันได้เกิดอีก ต้องทำการให้เด็ดขาด
วันที่เรียกตัวและหมายศาลที่ให้กับตัวบุคลากรดังกล่าว เพราะ การที่ทำให้การศึกษาต้องได้เสียระบบกับคนเดียวมันไม่ใช้เรื่อง ที่จะทำกัน เพราะเงินที่ขอไปเป็นทุนแต่กลับเอามาใช้เอง ซี่งเป็นความตามกฎหมายที่กว่ามาไว้ ข่าวแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแต่กลับไม่มีคนได้ร้องทุกข์ หรืออาจจับไม่ได้เลยก็ว่าได้
เป็นข่าวส่วนน้อยที่จะออกมาได้บ่อยครั้ง เพราะการที่มีข่าวแบบนี้อาจทำให้วิทยาลัยได้เสื่อมเสียกัน เลยไม่ค่อยจะออกมายอม หรือได้มีการปล่อยข่าวที่แน่ชัดเป็นอย่างมากก็ว่าได้